บทที่ 16 วันเกิด
หลังจากที่ยูนิเวิร์สลงประกาศนี้ อินเตอร์เน็ตก็ระเบิด บางคนก็มาบอกว่าในฐานะบัญชีทางการแล้วก็ไม่ควรจะสบถแบบนั้น ส่วนคนอื่นก็มาตบมือให้กับบรรณาธิการ
หลังจากนั้นแทบจะทันที บทความที่ลงเกี่ยวกับความสัมพันธ์”ใกล้ชิดสนิทสนม”ระหว่างเผยอิงกับซ่งหนานชวนก็ถูกเอาออกไป
กระแสนั้นเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว และคนที่จะตามเหตุการณ์ทันนั้นมีแต่พวกที่รีเฟรสหน้าจอไม่หยุดเท่านั้น
เผยอิงนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ดูสิ่งต่างๆที่ค่อยๆเปลี่ยนแปลง เธอถอนหายใจให้กับประสิทธิภาพในการทำงานของยูนิเวิร์ส พิคเจอร์ แต่ขณะเดียวกันเธอก็คิดเรื่องบรรณาธิการที่ดูแลเวปไปด้วย…เจ้าอารมณ์สุดๆไปเลย
แต่ความคิดเห็นที่ก่อกวนนั้นก็ไม่ได้หยุดหรือหายไปสักนิด ที่จริงพอชาวเน็ตเห็นประกาศเป็นทางการที่เข้าข้างเธอนั้น พวกเขาก็กระโดดออกมาพูด “ดูสิ! ยูนิเวิร์ส พิคเจอร์ออกมาพูดแทนเธอ แม้แต่บทความต้นฉบับยังโดนถอดออกเลย ควบคุมความเสียหายอย่างรวดเร็วขนาดนี้ นี่ไม่ใช่หมายความว่าซ่งหนานชวนกำลังปกป้องเธออยู่เหรอ!
ชาวเน็ตอีกคนตอบ “น่าแปลกเนอะ ถึงแม้ซ่งหนานชวนจะปกป้องเธอแล้วไงล่ะ ถ้าเธอมี ‘แอนตี้แฟน’ แบบเธอ แล้วทำไมจะมีคนปกป้องเธอไม่ได้ล่ะ อ่ะ อ้ะ ถ้าซีอีโอซ่งอยากจะเอาอกเอาใจเธอ แล้วเธอจะเกี่ยวอะไรด้วย (ยิ้ม) [คนแปล: นี่เซียวจางมาตอบหรือเปล่าเนี่ย]
เผยอิง, “…”
เธอถึงขนาดโดนคนที่มาแสดงความคิดเห็นล้อเลย…
แต่แอนตี้แฟนที่มากัดคุณไม่ยอมปล่อยนั้น ไม่ฟังเหตุผลใดๆก็ตามที่คุณพูดหรอก ดังนั้นเผยอิงจึงไม่พูดอะไร เธอรีโพสข้อความที่ยูนิเวิร์ส พิคเจอร์ลงก่อนออกจากเว่ยป๋อ
หลังจากเฝ้ามองพายุเลือดก่อตัวในอินเตอร์เนต เฉินเซิงก็โทรหาเผยอิง เป็นห่วงเรื่องเธอรับมืออย่างไร เผยอิงกำลังเล่นเกมส์อยู่ พอเห็นเฉินเซิงโทรมาก็ออกจากเกมส์ก่อนตอบ “จีเอ็มเฉิน มีเรื่องอะไรเหรอคะ”
“ไม่มีอะไรหรอก แค่อยากรู้ว่าเธอเป็นยังไงบ้าง”
“อ้อ ฉันสบายดีค่ะ ขอบคุณสำหรับความเป็นห่วงนะคะ”
“งั้นก็ดีแล้วล่ะ” เฉินเซิงรู้ว่าเธอนั้นเป็นคนใจเย็น “อย่าไปสนใจเรื่องบนโลกออนไลน์มากนักเลย ลองมองจากอีกมุมดู นี่ไม่ได้หมายความว่าเธอน่ะดังสุดๆไปเลยแล้วเหรอ ฉันจะช่วยเธอหาบทละครดีๆเอง ถ้ามีอะไรเหมาะๆพวกเราจะพยายามเอามาให้เธอ”
พอเธอได้ยินเฉินเซิงพูดแบบนี้ เผยอิงก็รู้สึกว่าเหตุการณ์ทั้งหมดนี่อาจจะเป็นโชคดีในโชคร้ายก็ได้ “ขอบคุณค่ะ จีเอ็มเฉิน”
“อืมม์ อย่าเลื่อนเรื่องถ่ายโฆษณาไปล่ะ”
“ทราบแล้วค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ จีเอ็มเฉิน”
“ดีแล้ว ฉันวางสายก่อนนะ”
หลังจากพูดสายกับเฉินเซิง เผยอิงก็เปิดเกมส์เลือกเสื้อผ้าต่อ
วันถัดมาเป็นวันที่ 1 เมษายน เป็นวันโกหก และยังเป็นวันเกิดปีที่ 23 ของเผยอิงอีกด้วย
โชคดีจริงๆที่วันนั้นเธอไม่มีงานอะไร พอเที่ยงเธอก็โดนเรียกตัวไปที่สตูดิโอของเหรินซานซาน และฉลองด้วยกัน เหรินซานซานนั้นสั่งเค้กก้อนใหญ่มาและยังเก็บกวาดสตูดิโอจนสะอาดเอี่ยมอีกด้วย
เผยอิงรู้สึกซาบซึ้งมาก เธอรู้สึกขอบคุณที่มีเหรินซานซานอยู่ข้างๆมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา จึงไม่เหงาเกินไป
พนักงานสองคนที่อยู่ที่สตูดิโอนั้นก็มีความสุขมากเช่นกัน นอกจากพวกเขาจะได้กินอาหารอร่อยๆแล้ว พวกเขายังอู้ได้แบบไม่โดนลงโทษอีกด้วย พวกเขาหวังว่าน่าจะเป็นวันเกิดเผยอิงทุกวัน
“สุขสันต์วันเกิด!” เหรินซานซานปักเทียนบนเค้ก เหลือบมองเผยอิง “รีบๆอธิษฐานเข้าสิ อะไรเซ็กซี่ๆหน่อยก็ดี”
เผยอิง, “…”
เธอหมายความว่าอะไรน่ะ ‘อะไรเซ็กซี่ๆหน่อยก็ดี’
นิสัยแบบยัยคนขับเฒ่าของเหรินซานซานโผล่มาอีกแล้ว “นี่มันยุคไหนแล้ว คนที่มาสนใจเธอน่ะมีแต่ยุงเท่านั้นแหละ คนให้กระเป๋า[1] เธอก็มีแต่ยุงเท่านั้นแหละ เธอไม่ควรจะอธิษฐานขอพรให้ฝันเซ็กซี่กลายเป็นจริงเหรอไง
“…ฉันไม่ได้กระหายขนาดนั้นนะ” เผยอิงยอมแพ้เรื่องที่โดนเธอแซว
เหรินซานซานกลอกตาไปมาแบบไม่พอใจ “ถึงฉันจะเดาได้ว่ามีใครบางคนสนใจเธออยู่ก็เถอะ”
ใบหน้าเผยอิงนั้นแดงขึ้นมาทันที เธอไม่สนใจเหรินซานซาน อธิษฐาน ก่อนเป่าเทียน ปีนี้ฉันขอให้ประสบความสำเร็จด้านความรัก
เหรินซานซานเริ่มถาม “เธออธิษฐานเรื่องอะไร ทำไมดูกะลิ้มกะเหลี่ยขนาดนั้นล่ะ”
“…ลองมองกระจกดูสิจ๊ะเพื่อน แล้วเธอก็จะรู้ว่าการดูกะลิ้มกะเหลี่ยน่ะมันเป็นยังไง”
เหรินซานซานทำเสียงต่ำๆจากลำคอก่อนส่งกล่องเล็กๆที่ห่ออย่างสวยงามมาให้ “นี่ เอาไปสิ ฉันซื้อของขวัญวันเกิดมาให้เธอ”
“ขอบคุณจ้ะ” ถึงแม้เธอกำลังจะเมินเหรินซานซานอยู่ แต่ก็จะไม่ปฏิเสธของขวัญหรอก เธอรีบแกะแบบใจร้อนและอดแปลกใจไม่ได้ “ลิปสเตน”
“อืมม์ ฉันเลือกมาให้เธอโดยเฉพาะเลยนะ” รอยยิ้มเหรินซานซานนั้นออกจะน่ากลัวนิดๆ “เธอรู้ไหมว่าอีกชื่อหนึ่งของลิปสเตนคืออะไร สี.ล่อ.ผู้ชาย.”
เผยอิง, “…”
เหรินซานซานใช้ข้อศอกถองเผยอิง “เธอจะไปกินมื้อค่ำกับซ่งหนานชวนคืนนี้ใช่ไหมล่ะ ทานี่สิ เขาต้องจัดการเธอแน่”
เพราะน้ำเสียงและถ้อยคำสองแง่สองง่ามนั้น แก้มเผยอิงนั้นค่อยๆโดนสีชมพูแต่งแต้ม “เธอจะบ้าเหรอไง พวกเราแค่จะไปทานข้าวกันเฉยๆ”
“อ้อเหรอออออออ…” เหรินซานซานลากเสียง มองเผยอิง “อย่าบอกฉันนะว่าเธอไม่สนน่ะ คนที่คลั่งไคล้เรื่องรูปร่างหน้าตาน่ะไม่มีจริยธรรมอะไรหรอก”
เผยอิง, “…”
“เธอไม่เห็นโพสออนไลน์ที่บอกว่าพวกเธอนอนด้วยกันเหรอไง ทำไมไม่ไปนอนกับเขา แล้วคนพวกนั้นจะได้ไม่ต้องโพสอะไรที่ไม่เป็นจริงต่อไปไง” จู่ๆเธอก็ตบไหล่เผยอิงเริ่มร้องเพลงอย่างกระตือรือร้น “สาวน้อย จงเดินไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญ” [2]
เผยอิง, “…”
เธออยากจะโปะหน้าเหรินซานซานด้วยเค้กบนโต๊ะแบบสุดๆไปเลย
เพราะว่าเธอนัดเจอซ่งหนานชวนตอน 6 โมงเย็น เผยอิงจึงอยู่ที่สตูดิโอถึง บ่าย 2 ก่อนรีบกลับบ้าน
เธอต้องอาบน้ำอีกรอบ เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วก็แต่งหน้าใหม่ด้วย
พอเธอกำลังจะทาปาก เธอก็ลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนหยิบลิปสเตนที่เหรินซานซานให้ขึ้นมา
ใช้ล่อผู้ชายเข้ามาหาได้จริงๆน่ะเหรอ
…นี่เธอกำลังคิดอะไรเนี่ย ทำไมเธอคิดอะไรเหมือนเหรินซานซานได้ล่ะ นี่มันแค่ลิปสเตนปกติธรรมดาหลอดหนึ่งเองนะ
หลังจากเผยอิงปลอบตัวเอง เธอก็ทาลิปสเตนอย่างระมัดระวัง เธอมองสีในกระจก มันทำให้ริมฝีปากเธอดูอวบอิ่มมีเสน่ห์จริงๆ ดูนุ่มนวลเป็นสีชมพู จนรอที่จะกัดสักคำไม่ได้
อืม เหมือนว่าจะสมชื่อ “ล่อผู้ชาย” จริงด้วยสิ
…ไม่นะ!
เผยอิงรู้สึกเหมือนวิญญาณเธอกำลังโดนทรมาน
พอเธอเตรียมตัวเสร็จก็ใกล้ 6 โมง พอ 5:50, ซ่งหนานชวนก็โทรหาเธอบอกว่าเขารออยู่ข้างล่างแล้ว
เผยอิงสำรวจตัวเองในกระจกขนาดเต็ฒตัวอีกครั้งว่า ทั้งผม ชุด และเครื่องสำอางค์นั้นดูดีแล้ว ก่อนหยิบกระเป๋าเดินลงมาข้างล่าง แมวที่เธอให้อาหารบ่อยๆจู่ๆก็โผล่มาจากที่ไหนก็ไม่รู้ พวกมันไม่ได้เข้ามาอ้อนขออาหารเธอ แต่ส่งเสียงเหมียวๆจากไกลๆ เหมือนกำลังทักทายเธอ
เผยอิงแปลเสียงเหมียวๆว่า “สุขสันต์วันเกิด” เธอยิ้ม โบกมือให้พวกมัน “ขอบคุณนะ ฉันจะทำงานหนักจ้ะ”
เธอเดินไปบนพื้นที่เต็มไปด้วยกลีบดอกไม้อย่างร่าเริง
ซ่งหนานชวนก็ยังเหมือนครั้งก่อน เขายืนรอเธออยู่นอกรถ พอเขาเห็นเธอ ริมฝีปากก็อดยกขึ้นไม่ได้ “สวัสดีครับ”
“สวัสดีค่ะ” เผยอิงทักพร้อมรอยยิ้ม
ซ่งหนานชวนหันมาเปิดประตูให้เธอเข้าไปนั่ง พอรถเคลื่อนตัว เผยอิงก็ถาม “พวกเราจะไปทานกันที่ไหนคะ”
“ทไวท์ไลท์” ซ่งหนานชวนเอ่ยชื่อร้าน
เป็นร้านชื่อดังในเมือง A ดังนั้นเผยอิงจึงเคยได้ยินชื่อถึงแม้จะไม่เคยมีโอกาสไปทาน เธอได้ยินมาว่าร้านนี้คือร้านระดับสูงสุดๆของตระกูลอวี้เลยที่เดียว เพราะว่าตั้งอยู่บนชั้น 25 ของตึก ซาซิ่ง แขกที่มาทานข้าวสามารถชมวิวทะเลไปด้วยได้
ครั้งนี้ไม่มีใครตามรถพวกเขาจึงมาถึงตึกฮวาซิงแบบไร้ปัญหา เผยอิงตามซ่งหนานชวนไปที่ลิปท์ที่พาพวกเขาไปที่ชั้น 25 พอประตูลิฟท์เปิดออก บริกรคนหนึ่งก็โค้งตัวทักทายพวกเขา
บริกรหนุ่มตัวสูงคนนั้นดึงดูดสายตามากที่สุด หลังจากยืนยันการจองของซ่งหนานชวน เขาก็นำไปที่ห้องโถงจัดเลี้ยง
การตกแต่งภายในนั้นงดงามมาก และเพลงภาษาฝรั่งเศสสะเทือนอารมณ์เล่นอยู่เบาๆ แขกที่อยู่ที่โต๊ะที่พวกเขาเดินผ่านนั้นยิ้มคุยกัน
พอพวกเขามาถึงเบื้องหน้าหน้าต่างแบบฝรั่งเศสขนาดใหญ่ บริกรก็หยุด ซ่งหนานชวนเลื่อนเก้าอี้เผยอิงออกก่อนเชิญเธอนั่งลง และเขาก็เดินไปนั่งลงฝั่งตรงข้ามเธอ
วิวจากที่นั่งของพวกเขานั้นยอดเยี่ยม เบื้องล่างนั้นเป็นท้องทะเลสีฟ้าอมเขียว ส่วนคันดินนั้นก็มีคนเดินเล่นรับลมทะเลอยู่ เสื้อผ้าบางเบาโดนลมพัดปลิวไสว
บริกรส่งเมนูให้เผยอิง และด้วยคำแนะนำ เธอก็สั่งเมนูพิเศษสำหรับคืนนี้ ซ่งหนานชวนสั่งเหมือนกันบวกกับไวน์แดงอีกหนึ่งขวด หลังจากบริกรจากไปเขายิ้มให้เผยอิงถาม “คุณชอบที่นี่ไหม”
“ชอบค่ะ วิวที่นี่สวยมาก”
ซ่งหนานชวนเอ่ย “ไม่ใช่แค่วิวดี แต่อาหารที่นี่ดีกว่าอีก อย่าลืมลองดูล่ะ”
“อืม ถึงฉันจะไม่เคยไปร้านตระกูลอวี้ครบทุกร้าน แต่ทุกร้านที่ฉันไปมาแล้วก็เยี่ยมสุดๆเลยค่ะ”
ซ่งหนานชวนหัวเราะ “ผมแน่ใจว่าต้องพาคุณไปบ่อยๆ”
และเผยอิงก็หน้าแดงกับคำพูดของเขาตามคาด ก่อนที่เธอจะฟื้นตัวซ่งหนานชวนหยอดเพิ่ม “อาหารดีๆต้องแบ่งกับคนที่คุณชอบถึงจะอร่อยมากขึ้นอีก”
……
เขา…บอกว่าเธอเป็นคนที่เขาชอบงั้นเหรอ การสารภาพนี้เผยอิงไม่ทันตั้งตัวจริงๆ
หัวใจเธอเริ่มเต้นเร็วขึ้น ขณะที่นั่งอยู่แบบไม่ติดที่นั่นเอง บริกรก็ยกไวน์มา เธอรีบจิบเพื่อสงบสติอารมณ์
เพื่อลบความรู้สึกเขินอายอึดอัด และทำให้เธอดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น เผยอิงเริ่มชวนซ่งหนานชวนคุย “วันเกิดฉันเป็นวันที่ 1 เมษายน ตอนเรียน พอฉันบอกว่าวันนี้วันเกิดฉัน ทุกคนก็ตอบฉันว่า “สุขสันต์วันเมษาหน้าโง่” กันหมด”
ซ่งหนานชวนหัวเราะเสียงต่ำ “คุณคงมีคนชอบเยอะสมัยเรียนสินะครับ มีคนจีบคุณบ้างไหม”
“เอ่อ…” เธอลดตาลงต่ำครุ่นคิด ก่อนเงยหน้ามองซ่งหนานชวนก่อนเอ่ย “ก็มีบ้าง แต่พวกเขาไม่ได้หน้าตาดีขนาดนั้น”
“พรืด” ซ่งหนานชวนที่จิบไวน์แดงอยู่อดหัวเราะไม่ได้
เผยอิงเสริม “แล้วฉันก็สูงมากด้วย ดังนั้นหนุ่มๆส่วนใหญ่จึงเตี้ยกว่าฉัน”
“เหรอ” ซ่งหนานชวนหัวเราะต่อ
“ดังนั้น พอรุ่นพี่ที่ทั้งสูงทั้งหล่อสารภาพรักกับฉัน ฉันก็ตอบรับ แต่ไม่ถึงสองวันถัดมาฉันก็รู้ว่า นอกจากฉันแล้วรุ่นพี่คนนั้นยังมีแฟนอีกสองคนแน่ะ” จุดนี้เผยอิงก็รู้สึกขุ่นเคือง “คุณรู้ไหมว่าสิ่งที่น่าหงุดหงิดที่สุดคืออะไร พอฉันไปคุยกับเขาเรื่องนี้ เขาก็ยอมรับหน้าตาเฉยว่าใช่ เขามีแฟนคนอื่นอีก แล้วเขาก็ถามฉันกลับว่า ‘แน่นอนว่าเธอต้องมีแฟนคนอื่นนอกจากฉันด้วยอยู่แล้วใช่ไหม’”
เผยอิงจิบเครื่องดื่มระบายความโกรธ “ตอนนั้นฉันเศร้าสุดๆเลย ฉันคิดว่าผู้ชายคนอื่นๆในโลกนี้จะเป็นแบบนั้นไหม หลังจากนั้นฉันก็ไม่ได้คบใครอีกเลย”
อันที่จริงเธอนึกถึงมันขึ้นมาอีกว่า เรื่องมันจบลงภายในสองวันแบบนั้น ไม่น่าจะนับว่า’เดทกัน’หรอกละมั้ง
ซ่งหนานชวนมองเธอจากอีกฝั่งของโต๊ะ แสงสีเหลืองอบอุ่นกระทบดวงตาเข้มแวววาวคู่นั้น “ในโลกนี้ยังมีผู้ชายที่รักคนคนหนึ่งไปตลอดชีวิตอยู่นะ”
[1] คำว่ากระเป๋าพ้องเสียงกับตุ่มค่ะ ในที่นี้คือตุ่มจากยุงกัด แต่ยัยซานซานหมายถึงรอยคิสมาส์กค่ะ
[2] เพลงนี้มาจากภาพยนตร์ในปี 1987 Red Sorghum