ฉันไม่ใช่นางเอก 53

บทที่ 53 ห้องแต่งตัวลับ

เผยอิงตามคุณนายซ่งไปที่ “ตู้เสื้อผ้าลับ” ด้วยหัวใจอันมีศรัทธาแรงกล้า

ถึงจะถูกเรียกว่าตู้เสื้อผ้า แต่มันใหญ่กว่าอพารตเมนท์ที่เผยอิงเคยเช่าอยู่เสียอีก นอกจากกระจกขนาดใหญ่ในห้องแล้ว มีแต่เสื้อผ้าเต็มไปหมด – เสื้อผ้าหลากหลายสี หลากหลายขนาด และหลากหลายสไตล์ และยังมีทั้งรองเท้า กระเป๋า เครื่องประดับต่างๆ

ทุกอย่างถูกจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบ แบ่งตามสี และสไตล์ มีกระทั่งเสื้อผ้าสำหรับเด็กเล็ก เด็กผู้หญิง และผู้หญิง

จะเรียกว่าเป็นสวรรค์ของเด็กผู้หญิงก็ไม่แปลก

เผยอิงมองไปรอบๆ ด้วยสมองว่างเปล่า ไม่เคยจะคิดว่าคุณนายซ่งน่ะจะเป็นนักสะสมตัวยงขนาดนี้ แต่ทำไมถึงมีเสื้อผ้าเด็กด้วยล่ะ??

เวลาผ่านไม่นานคุณนายซ่งก็ตอบคำถามเธอ “เคยได้ยินหนานชวนพูดถึงเรื่องนี้บ้างไหมจ๊ะ ฉันน่ะอยากได้ลูกสาวมาตลอดเลย แต่ดันคลอดลูกชายออกมาสามคน เด็กผู้ชายน่ะไม่น่ารักเท่าเด็กผู้หญิงสักนิด ถ้าเป็นเด็กผู้หญิงล่ะก็ สามารถจับแต่งตัวไม่ต่างกับตุ๊กตา และก็ถ่ายรูปสวยๆ ได้ทุกแบบเลย อา แค่คิดก็มีความสุขแล้วจ้ะ”

เผยอิง “….”                                     

หืมม์ ก็จริงอยู่นะ เด็กผู้หญิงน่ะชอบเล่นแต่งตัว ตอนเด็กๆ ก็เล่นตุ๊กตาบาร์บี้ และพอมีอายุมากขึ้น…ที่จริงเธอก็ยังเล่นเกมส์แต่งตัวบนโทรศัพท์อยู่เลย…อ๊ากซ์

แต่การจับคนจริงๆ มาแต่งตัวเป็นเกมส์นี่ออกจะ…

คุณนายซ่งพูดต่อ “ก่อนที่ฉันจะได้ลูกชายคนแรก ก็ซื้อเดรสน่ารักๆ มาเต็มเลย ตั้งตาคอยลูกที่จะเกิด มาเล่นกับฉัน แต่เขากลับเป็นเด็กผู้ชาย”

…หืมม์ มันเป็นเรื่องน่าเศร้าจริงๆ

“แต่เสื้อผ้าที่ฉันซื้อมามันน่ารักจริงๆ ออกจะน่าเสียดายถ้าไม่ได้ใส่ ฉันเลยจับเขาใส่อยู่ดี”

เผยอิง “…??!!” อะไรนะ?

“หนูอยากเห็นรูปไหมจ๊ะ” คุณนายซ่งถามเผยอิงอย่างตื่นเต้น

“…แน่นอนค่ะ!” เผยอิงยิ้มแม้อยู่ในสถานการณ์ที่แสนยากลำบาก

เธอต้องสร้างความประทับใจที่ดีให้ได้

เมื่อได้รับคำตอบจากเผยอิง คุณนายซ่งก็เดินไปทางโต๊ะเครื่องแป้ง ดึงอัลบั้มรูปออกมา

“ดูสิจ๊ะ ตอนเด็กๆ เขาดูเหมือนเด็กผู้หญิงเลยใช่ไหม”

…คิ้วเผยอิงกระตุก โดนจับใส่เสียเต็มยศขนาดนั้น จะดูเหมือนเด็กผู้หญิงก็ไม่แปลกสักนิด

“จริงด้วยค่ะ น่ารักมากเลย~” ใบหน้าเผยอิงยังคงยิ้มสดใส เหมือนกับมีวิญญาณเดียวกับคุณนายซ่ง แม้จะขัดกับความรู้สึกในใจก็ตาม 

คุณนายซ่งรำลึกอดีตต่อ “ก่อนจะมีลูกชายคนที่สอง ฉันก็ซื้อเสื้อผ้าเด็กผู้หญิงมาอีก แต่โชคร้ายจริงๆ ที่ลูกคนรองก็ดันเป็นผู้ชายอีก”

เผยอิง “….”

เดี๋ยวนะ พี่สองเองก็ไม่รอดเหมือนกันเหรอเนี่ย

ใช่แล้ว คุณนายซ่งเปิดอัลบั้มหน้าถัดไป “เหล่าเอ้อร์น่ะดื้อมาก เขาไม่ยอมอยู่นิ่งๆ การถ่ายรูปเขาน่ะเหนื่อยสุดๆ ไปเลย โชคดีที่ฉันท้องอีกรอบ”  

เผยอิง “……..”                                            

ไม่ต้องเล่าต่อ เธอก็รู้ดีว่าคนที่สามน่ะเป็นใคร จนเธออดปวดใจแทนเขาไม่ได้

คุณนายซ่งเอ่ย “ตอนนั้น ฉันคิดว่า มีลูกชายสองคนติดแบบนี้ คนที่สามคงจะไม่ใช่แล้วล่ะ เลยกระหน่ำซื้อเสื้อผ้าเด็กผู้หญิงอีก แต่แล้ว…” แววตาคุณนายซ่งหม่นลง “หลังจากหนานชวนเกิด ฉันอยากสลับตัวเขากับเด็กผู้หญิงที่นอนอยู่ข้างๆ เขาสุดๆ เลย”

เผยอิง “….”

“โชคดีจริงๆ ที่หนานชวนน่ะสวยที่สุดในหมู่พี่น้อง มีกระทั่งไฝเสน่ห์ บอบบางน่ารัก ฉันเลยหยุดถ่ายรูปเหล่าเอ้อร์ เวลาหนานชวนแต่งตัวน่ะ สวยน่ารักที่สุดเลย”

….เธออดปวดใจไม่ได้อีกครั้ง

แต่เผยอิงก็โดนสะกดด้วยรูปเด็กน้อยที่ไม่แตกต่างอะไรกับตุ๊กตา “อุ๊ยตาย น่ารักสุดๆ ไปเลยค่ะ นี่ชวนชวนจริงเหรอคะ”

“ใช่จ้ะ ฉันชอบมากๆ จนฉันอยากเลี้ยงเขาเป็นเด็กผู้หญิงเลย เสียแต่พ่อเขาไม่ยอมน่ะ พอเขาโตขึ้นก็ไม่ยอมให้ฉันถ่ายรูปอีก ฉันเลยต้องเก็บเสื้อผ้าพวกนี้เข้ากรุ…” แววตาคุณนายซ่งเป็นประกายขึ้นมาอีกครั้ง “แต่พอฉันนึกขึ้นมาได้ว่าเวลาพวกเขาแต่งงาน พาภรรยาคนสวยกลับมาบ้าน ฉันก็ถ่ายรูปพวกเธอได้”  

เผยอิง “….”

เดี๋ยวนะ นั่นคงไม่ใช่แบบที่เธอคิดใช่ไหม

“ดูนี่สิ ฉันถ่ายรูปสะใภ้ เธอสวยใช่ไหม” คุณนายซ่งพลิกอีกหน้า เป็นภาพของพี่สะใภ้ “สะใภ้คนโตน่ะดูอ่อนโยนมาก และดูดีเวลาสวมกี่เพ้ามากเลย ชุดยาวๆ แบบนี้ดูสง่างามมากด้วย แต่ตอนนี้เธอท้อง เลยถ่ายรูปกับฉันไม่ได้อีก”

เผยอิงตกใจ “พี่สะใภ้ท้องเหรอคะ”

“อื้ม สองเดือนแล้วล่ะ ยังไม่รู้เพศ แต่ฉันแอบหวังว่าจะได้หลานสาวนะ”

เผยอิง “….”

คุณนายซ่งยึดติดกับเรื่องนี้…มากจริงๆ

“หนูเผย หุ่นหนูดีมากจริงๆ ฉันสงสัยว่าหนูอยากลองชุดพวกนี้สักสองสามชุดไหมจ๊ะ” คุณนายซ่งมองเผยอิงด้วยแววตาจริงใจ

“…แน่นอนค่ะ!” เผยอิงตอบอย่างสนใจ

คุณนายซ่งเริ่มต้นเลือกชุดให้เผยอิงอย่างร่าเริง เผยอิงเปลี่ยนมาสวมชุดสไตล์เจ้าหญิงหวานแหวว ก่อนเปลี่ยนมาเป็นชุดสไตล์เซ็กซี่ และยังลองสวมชุดแนวโลลิต้าเป็นการปิดท้ายก่อนจะเป็นการจบกิจกรรมยามบ่ายอันแสนสุข

หลังจากเปลี่ยนกลับมาสวมชุดของตัวเอง เผยอิงก็ตั้งอกตั้งใจแนะนำเกมส์แต่งตัวบนมือถือที่เธอเล่นอยู่ให้กับคุณนายซ่ง

และคุณนายซ่งก็ยกรูปซ่งหนานชวนตอนเด็กๆ ในชุดเด็กผู้หญิงให้เผยอิงเป็นที่ระลึก

ซ่งหนานชวนกับบิดากำลังนั่งอยู่ในห้องรับแขก พอเขาเห็นแม่ตัวเองลงบันไดมากับเผยอิง ก็เดินมากระซิบข้างหูเธอ “แม่ฉันให้เธอทำอะไรน่ะ”

เผยอิงตอบ “เล่นแต่งตัวค่ะ”

ซ่งหนานชวน “….”                               

เขาดึงเผยอิงไปที่ระเบียง ด้วยสีหน้าทะมึน “แม่พาเธอไปที่ตู้เสื้อผ้านั่นใช่ไหม”

“ใช่ค่ะ มีเสื้อผ้าเยอะแยะเลย และฉันก็เห็นรูปพวกคุณตอนเด็กๆ ด้วยแหละ”

ซ่งหนานชวน “….”

ในโลกนี้ มีแม่คนไหนขายลูกชายตัวเองแบบนี้บ้างเนี่ย เหอเหอ…

“คุณป้าบอกว่า ตอนคุณเกิดใหม่ๆ เธออยากสลับตัวคุณกับเด็กผู้หญิงเตียงข้างๆ มากเลย”

“….” ซ่งหนานชวนเงียบไปครู่หนึ่ง มิน่าล่ะ เขาถึงรู้สึกว่าตัวเองไม่ใช่ลูกชายแท้ๆ ของแม่ตัวเอง ก่อนเอ่ยพร้อมเสียงถอนหายใจ “โทษทีที่ไม่ได้เตือนเธอไว้ก่อน ก่อนพี่สะใภ้จะโดนพาไปที่ตู้เสื้อผ้านั่น ก็หลังเธอแต่งงานเข้ามาแล้ว… นี่เป็นส่วนหนึ่งของความลับตระกูลซ่งอันดำมืด เธอไม่ควรให้ใครรู้นะ”  

“…โอเคค่ะ” เผยอิงอยากหัวเราะ แต่ก็พยักหน้า “ที่จริงมันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนักหรอกค่ะ ฉันเคยเป็นนางแบบนะ เปลี่ยนเสื้อผ้า ถ่ายรูป ก็ไม่ต่างกันนักหรอก”

ถึงงานอดิเรกคุณนายซ่งจะแปลกไปสักหน่อย แต่คอลเลคชั่นส่วนตัวของเธอนั้นอลังการงานสร้างมาก มีเสื้อผ้าจากดีไซน์เนอร์ดังๆ เพียบ สนองตัณหาผู้หญิงได้อย่างดี

“อ้อ คุณป้าให้รูปคุณมาเป็นการขอบคุณฉันด้วยแหละ” เผยอิงงัดรูปออกมาจากกระเป๋า โบกไปมาตรงหน้าซ่งหนานชวน “ฉันไม่เคยคิดสักนิดว่าตอนเด็กๆ คุณจะน่ารักขนาดนี้นะคะ หนานชวนเม่ยเม่ย[1]

ซ่งหนานชวน “….”

เขาเอื้อมมือจะคว้ารูป แต่โชคดีที่เผยอิงมือไวกว่า “คุณจะทำอะไรน่ะ ริบรางวัลฉันเหรอ”

“ทำไมเธออยากเก็บรูปแบบนั้นไว้ล่ะ”

ขณะที่ซ่งหนานชวนพยายามคว้ารูปใบนั้นต่อ แม่เขาก็ผ่านมาพอดี เธอมองพวกเขาก่อนพูด “กินข้าวได้แล้วจ้ะ เข้าห้องแล้วค่อยไปสนุกกันต่อเถอะ”

เผยอิงกับซ่งหนานชวน “….”

โต๊ะอาหารเย็นนั้นมีจำนวนคนน้อยลง พี่ชายคนโต พี่สะใภ้ และพี่สองไม่อยู่ที่โต๊ะ คุณนายซ่งยิ้มมองเผยอิงก่อนถาม “หนูเผย หนูอยากได้ลูกสาวหรือลูกชายจ๊ะ”

“ลูกสาวค่ะ” เธอไม่ต้องคิดสักนิด

คุณนายซ่งพยักหน้าเห็นด้วย “เด็กผู้หญิงน่ะน่ารักกว่าเด็กผู้ชาย แถมยังเป็นเสื้อหนาวยัดนุ่น[2]ของแม่ด้วย”           

“ใช่ค่ะ” เผยอิงตอบพร้อมรอยยิ้ม

คุณนายซ่งถามซ่งหนานชวนต่อ “แล้วลูกล่ะ หนานชวน อยากได้ลูกชายหรือลูกสาวจ๊ะ”

ซ่งหนานชวนตอบ “ถ้าคนคลอดเป็นเผยอิง จะเพศไหนผมก็ชอบครับ”

คำพูดของเขาทำเผยอิงเขินไม่ได้ คุณซ่งที่กำลังดื่มน้ำแกงอยู่นั้น จู่ๆ ก็วางถ้วยลง ก่อนเรียกพนักงาน “แกงนี่หวานเกินไป ขอถ้วยใหม่หน่อย”

เผยอิง “….”

หลังกินมื้อค่ำเสร็จ ซ่งหนานชวนกับเผยอิงก็มีเวลาเป็นของตัวเอง ซ่งหนานชวนจูงมือเผยอิงไปเดินเล่นที่สนามหญ้าท่ามกลางแสงจันทร์

“วันนี้เธอทำได้ไม่เลวเลย แม่ฉันชอบเธอมาก ฉันเดาว่าเธอน่าจะผ่าน”

 “หืมม์ แต่เหมือนว่าพ่อคุณจะไม่ค่อยชอบฉันเท่าไหร่นะคะ”

“พ่อฉันก็แบบนั้นแหละ ไม่ต้องห่วงหรอก ถ้าแม่ฉันชอบเธอเสียอย่าง เขาก็ทำอะไรไม่ได้หรอก” การที่ตู้เสื้อผ้าลับของแม่เขานั้นยังอยู่จนทุกวันนี้ก็เป็นข้อพิสูจน์ที่ดี

“โอเค…” เผยอิงพยักหน้า

ซ่งหนานชวนหยุดเดิน ก่อนจูบหน้าผากเธอ “วันนี้พวกเราพักผ่อนเร็วหน่อย พรุ่งนี้จะไปทะเล”

เผยอิงตอบรับ ก่อนที่จู่ๆ ก็มีเสียงชายหนุ่มดังขึ้นจากในพุ่มไม้ “เหอะ เหอะ อยู่ข้างนอกนี่พวกนายช่วยสนใจรอบตัวหน่อยได้ไหม พวกนายนี่มันเลี่ยนจนฉันจะอ้วกเลย”

ซ่งหนานชวนนิ่วหน้า ดึงเผยอิงไปข้างๆ ใช่แล้ว คนที่กำลังนั่งอยู่ในสวน ย่างเนื้ออยู่…นั้นคือพี่สอง

“นายมาย่างเนื้ออยู่ตรงนี้ได้ไง” บางครั้งซ่งหนานชวนก็ไม่เข้าใจว่าสมองพี่ชายตัวเองนั้นทำงานยังไง                                     

พี่สองเลิกคิ้ว ก่อนเอียงคอ “ก็ไม่ใช่ครั้งแรกสักหน่อย จิบเบียร์ ย่างเนื้อใต้แสงจันทร์ จะใช้ชีวิตหรูกว่านี้ไม่ได้แล้วนะ”

“…พี่ถูกพ่อตีไม่พอใช่ไหม”

พี่สองโบกมือไล่ “พวกนายสองคนมากินด้วยกันไหม ฉันซื้อเนื้อมาเยอะเลย กินคนเดียวคงไม่หมด”

เผยอิงมองเนื้อหลากหลายชนิดในจานแล้วน้ำลายก็เริ่มสอ ถึงจะกินข้าวแล้ว แต่ก็กินน้อยกว่าปกติมาก ท้องเธอ…ดูเหมือนจะว่างๆ อยู่

ซ่งหนานชวนเห็นเธอจ้องอาหารแบบนั้นก็รู้ว่าเธอยังไม่อิ่ม คิดอยู่แป็ปหนึ่งก็พูด “ฉันย่างให้เอง เธอจะกินอะไรบ้างล่ะ”

“เนื้อวัว ปีกไก่ และก็หอยเชลล์ค่ะ ขอบคุณนะ”

พี่สองที่อยู่ข้างๆ อดหัวเราะไม่ได้ “เหมือนว่ามื้อค่ำของเราจะไม่ถูกปากเธอนะ”

ซ่งหนานชวนถลึงตาใส่เขา ก่อนม้วนแขนเสื้อขึ้น เริ่มย่าง

พี่สองวางซี่โครงลงบนเตา พูดกับซ่งหนานชวน “ขอบใจนะ อุตส่าห์ย่างให้ด้วย”

ซ่งหนานชวน “….”

เผยอิงเดินมา ก่อนเอ่ย “ให้ฉันย่างเถอะ”

“ไม่เป็นไร ยืนห่างๆ หน่อยสิ เดี๋ยวกลิ่นก็ติดตัวเธอหรอก”

“อ่ะ…” เหมือนว่าชวนชวนจะให้เธอรักษาภาพพจน์คุณหนูจนถึงที่สุดเลยสินะ

เธอยืนดูซ่งหนานชวนอยู่ห่างๆ พี่สองหยิบเก้าอี้มาให้เธอ ก่อนนั่งลงและเริ่มคุย

ซ่งหนานชวนอดปาข้าวโพดใส่พี่ชายตัวเองไม่ได้ “ทำไมพี่ไม่มาช่วยผมหน่อยล่ะ”

พี่สอง “เดี๋ยวฉันช่วยกินไง”

ซ่งหนานชวน “….”                                          

เพื่ออิงอิง เขาจะยอมทนก็ได้

หลังจากเขาพลิกเนื้อกลับด้าน คนดูแลบ้านก็เดินออกมา คนดูแลบ้านเห็นมาหมดทุกอย่างแล้ว ดังนั้นการย่างเนื้อครั้งนี้ไม่ทำให้เขาแปลกใจสักนิด เขาหันไปทางซ่งหนานชวนก่อนเอ่ย “คุณชายเล็ก คุณท่านอยู่ในห้องหนังสือ บอกว่าอยากคุยกับคุณครับ”

ซ่งหนานชวนพยักหน้า ส่งต่อหน้าที่ย่างเนื้อคืนให้พี่สอง “มาย่างต่อ”

“ช่าย ช่าย ก็ด้าย” พี่สองลุกขึ้น เดินมาทางเตาย่าง ซ่งหนานชวนจัดเสื้อผ้า เอ่ยกับเผยอิง “ปล่อยเขาย่างไป อย่าทำอย่างอื่นล่ะ ถ้าพ่อแม่ฉันรู้ ก็บอกไปว่าเขาเป็นคนลากเรามากินด้วย”

“อื้อ…”

พี่สองงืมงำอย่างไม่พอใจ หลังจากซ่งหนานชวนเดินออกไปพร้อมคนดูแลบ้าน เขาก็คีบเนื้อที่สุกแล้วลงจาน ส่งให้เผยอิงทั้งหมด

“ขอบคุณค่ะ” เผยอิงรับอาหารมา ก่อนเริ่มกิน เธอพูดด้วยความแปลกใจ “ทำไมถึงอร่อยขนาดนี้เนี่ย”

พี่สองยิ้มเย้ย “ฉันมาย่างเนื้อแบบนี้ตอนกลางคืนบ่อยๆ หลังจากอาหารได้ซึบซับแสงจันทร์ ย่อมอร่อยขึ้นอยู่แล้ว”

เผยอิงหัวเราะลั่น ขณะที่พี่สองส่งเบียร์กระป๋องมาให้ “เอาหน่อยไหม”  

[1] เม่ยเม่ยแปลว่าน้องสาว แต่คนจีนชอบเอามาลงท้ายชื่อเด็กผู้หญิงค่ะ ตัวย่อคือเอ็มเอ็ม

[2] เสื้อหนาวยัดนุ่น คนจีนเชื่อว่าลูกสาวน่ะอบอุ่น คอยดูแลพ่อแม่ค่ะ

One thought on “ฉันไม่ใช่นางเอก 53

Leave a comment