ฉันไม่ใช่นางเอก 48

บทที่ 48 คุณสามี

บทที่ 48 คุณสามี

เช้ามืดวันถัดมา ก่อนพระอาทิตย์จะขึ้น เสียงนาฬิกาของเผยอิงดังขึ้นปลุก เธอรีบลุกขึ้นจากเตียงล้างหน้า ซ่งหนานชวนนิ่วหน้ามองเธอที่กำลังรีบ คิดว่าคงต้องคุยกับทีมงานถ่ายทำเสียที

เผยอิงไม่มีเวลากินข้าวด้วยซ้ำ คว้าขนมปังไปหนึ่งชิ้นตรงเข้ารถผู้ช่วยไป งีบไปในรถอีกครู่หนึ่ง ทารองพื้น และก็ถึงสถานที่ถ่ายทำ

ท้องฟ้ามีเพียงแสงระเรื่อน้อยๆ แต่ทีมงานนั้นก็ยุ่งกับการเตรียมการเสียแล้ว หลังจากเผยอิงแต่งหน้าเสร็จ ก็หยิบบทมาอ่านทวนอีกรอบ วันนี้เธอต้องถ่ายกับโม่เจิ้นหลายฉาก แต่เธอไม่อยากโดนด่าเละแบบวันก่อนอีกแล้ว

เผยอิงจำบทได้จนขึ้นใจแล้ว แต่กลัวว่าเวลาแสดงกับโม่เจิ้นนั้นเธอจะโดนกลบอีก พอโม่เจิ้นมาถึง เธอก็ทำหน้าหนาขอให้เขามาซ้อมบทกับเธอ ซึ่งเขาก็ไม่หยิ่งสักนิดตอบตกลงอย่างง่ายดาย

การซ้อมนั้นเป็นไปด้วยดี โม่เจิ้นยังให้คำแนะนำเล็กๆน้อยๆ เธอด้วย หลังจากคุยกับโม่เจิ้นจบ เธอก็ดึงสมุดเล่มเล็กที่พกติดตัวเสมอออกมาจดข้อเสนอแนะของเขาลงไป

โม่เจิ้นเหลือบมองสมุดของเธอ “เธอพกอะไรแบบนี้ด้วยเหรอ”

“ใช่ค่ะ” เผยอิงยิ้มเขิน “ถ้าจดไว้ จะเอาออกมาอ่านเมื่อไหร่ก็ได้ค่ะ เหมือนคำพูดที่ว่า ความจำดีแค่ไหนก็สู้ลายมือห่วยๆ ไม่ได้”

โม่เจิ้นพยักหน้านิดๆ กับความเห็นของเธอ หลังจากซ้อมบทกันอีกครั้ง ผู้กำกับก็เรียกพวกเขาไปถ่ายทำ

ฉากวันนี้อยู่ที่ออฟฟิศของผู้จัดการจ้าวเสวี่ยซึ่งเป็นฉากในร่ม อู๋หยางที่เริ่มสนใจหรืออาจสงสัย จ้าวเยวี่ย นั้นพารุ่นน้องมาหาเธอด้วย

ต่อให้มาที่บริษัทไฮโซแบบนี้ อู๋หยางยังมาด้วยสภาพที่สวมรองเท้าแตะ แถมด้วยหัวยุ่งๆ เหมือนพึ่งลุกจากที่นอนแต่สายตานั้นทำให้จ้าวเสวี่ยต้องระมัดระวังตัว

“อ่ะ ใครจะเดาได้ว่าผมจะได้เจอดาราคนดังแบบนี้บ้าง” ริมฝีปากบางสุดเซ็กซี่ของอู๋หยางยกขึ้นเล็กน้อย ทำให้จ้าวเสวี่ยคิดถึงแมวแก่จอมขี้เกียจที่อาศัยอยู่บริเวณตึก เขาก้าวเท้าเข้ามาหาเธอ ผมม้าสีดำสนิทยาวปรกขนตา “ตัวจริงคุณจ้าวดูดีกว่าในจอทีวีเสียอีก”

ริมฝีปากจ้าวเยวี่ยกระตุกเล็กน้อย เหมือนกำลังจะยิ้ม “เจ้าหน้าที่กู้มาพบฉันมีเรื่องอะไรคะ”

เธอถามกู้ซือป๋อ แต่อู๋หยางไม่ปล่อยให้เขาตอบ เอ่ยขึ้นทันที “ผมได้ยินว่าคุณจ้าวทุ่มเททำงานเพื่องานมาก ตอนที่แสดงเป็นพนักงานในโรงงาน คุณถึงกับไปทำงานโรงงานอยู่ครึ่งเดือน” เขาปัดผมออกจากใบหน้า ก่อนสายตาที่ไม่มีอะไรปิดบังจะเลื่อนมามองจ้าวเยวี่ย  “สำหรับบทฆาตกรใน ‘ไล่ตามสายลม’ คุณจะออกไปฆ่าใครสักคนหรือเปล่า”

สายตาจ้าวเยวี่ยต่ำลงเล็กน้อย เหมือนว่าคำถามนั้นน่าขันมาก “คุณคิดว่าเป็นไปได้เหรอคะ”

อู๋หยางหัวเราะ “นั่นคงจะจริงจังเกินไป”

ภายนอกห้องทำงาน ผู้จัดการของจ้าวเยวี่ยเคาะประตู จ้าวเยวี่ยมองประตูก่อนลุกขึ้น ขอตัว “ขอโทษนะคะ แต่ฉันยังมีงานต้องทำ”

ขณะที่เธอเดินออกไปพร้อมส้นสูง ผู้กำกับก็สั่งคัท “เผยอิง วันนี้การแสดงของเธอดีกว่าเมื่อวานเยอะ ไม่กลัวเวลาต้องแสดงกับโม่เจิ้นอีกแล้ว แต่อวี้ไค่เจ๋อนั่งอยู่ตรงนั้นเหมือนท่อนไม้ นายคิดว่าตัวเองเป็นมาสคอตเหรอไง”

อวี้ไค่เจ๋อ “….”

“ฉากนี้ผมไม่มีบทนี่ครับ” เขาปกป้องตัวเอง ผู้กำกับยิ้มเหยียดๆ “ต่อให้นายไม่มีบท ก็สามารถแสดงสีหน้าแทนคำพูดได้นี่ นี่เป็นอะไรที่ฉันต้องสอนนายด้วยเหรอไง นายนั่งอยู่ตรงนี้เหมือนลูกเป็ดขี้เหร่ที่นั่งแหมะอยู่ระหว่างหงส์สองตัว”

อวี้ไค่เจ๋อ “….”

ผู้กำกับจ้าวไปเรียนวิธีการด่าคนมาจากเฉียวอี้เฉินเหรอเนี่ย เขาเก่งจริงๆ

“ถ่ายกันอีกรอบ”

เผยอิง “….”

การที่เธอคิดว่าตราบใดที่เธอแสดงดีพอ การถ่ายทำคงจะเป็นไปอย่างราบรื่น นั้นเป็นความคิดที่ใสซื่อเกินไปจริงๆ

การถ่ายทำดำเนินต่อไปถึงกลางดึกอีกครั้ง หลังจากที่ได้ยินผู้กำกับสั่งคัท อวี้ไค่เจ๋อก็ทรุดตัวลงนั่งแผ่กับเก้าอี้ทันที “ต้องขอบคุณที่วันมะรืนที่จะได้หยุดพัก ผู้กำกับจ้าวช่างรู้วิธีทรมานคนจริงๆ”

ผู้กำกับที่กำลังเก็บของอยู่ตอนที่ได้ยินคำพูดนั้น มองอวี้ไค่เจ๋อก่อนหัวเราะ “ฉันโหดกว่าที่นายคิดเยอะ วันมะรืนที่จะพักน่ะถูกยกเลิกแล้ว”

พอเขาพูดจบ ทั้งทีมก็ชะงักไปทันที ผู้กำกับจ้าวกระแอม ก่อนถือโอกาสประกาศ “วันมะรืนพวกเราจะไปถ่ายทำนอกสถานที่กัน เนื่องจากพึ่งได้รับอนุญาตเลยหยุดพักไม่ได้แล้ว ทุกคนทนต่ออีกนิดนะ เหอๆ
“พวกเราถ่ายต่อเนื่องมาครึ่งเดือนแล้วนะ จะให้พวกเรามีชีวิตต่อไปได้ยังไง”

ผู้กำกับจ้าวเหลือบมองอวี้ไค่เจ๋อที่โกรธจัด “ถ้าการแสดงของนายดีกว่านี้ พวกเราคงจะได้พักเร็วกว่านี้”

อวี้ไค่เจ๋อ “….”

หลังจากที่รู้ว่าวันหยุดนั้นโดนยกเลิก เผยอิงก็นิ่งคิดเล็กๆ เพราะเธอตกลงจะไปเมือง C กับซ่งหนานชวนแล้ว

“ผมขอตัวก่อนนะครับ ทุกคนทำได้ดีมาก” โม่เจิ้นสวมแว่นกันแดด ก่อนตรงไปที่รถเบนท์ลีย์ พอเดินผ่าน ผู้กำกับก็ถามอย่างสุภาพว่า “จักรพรรดิโม่ ทุกอย่างโอเคใช่ไหมครับ”

“ผมโอเคครับ” โม่เจิ้นตอบทั้งแบบนั้น โดยไม่หันหัวกลับมา ก่อนขึ้นรถไป

ผู้กำกับตะโกนบอกทีมงาน “เมีอกี้ทุกคนเห็นแล้วใช่ไหม เรียนรู้จากจักรพรรดิโม่ซะ ดูความทุ่มเทของเขาสิ”

ถึงจะโมโหแค่ไหน ก็ไม่มีใครกล้าแย้ง ได้แต่ก้มหน้าก้มตาทำงานให้เสร็จ อวี้ไค่เจ๋อบ่นอย่างโมโหหลายประโยคก่อนจากไป และผู้ช่วยเผยอิงก็ช่วยพาเธอไปที่รถ

เธอหลับระหว่างทางกลับ ก่อนที่ผู้ช่วยจะปลุกเธอ “คุณเผยคะ พวกเรามาถึงแล้วค่ะ”

เผยอิงลืมตาขึ้น พยักหน้า “อ้อ โอเค”

พอเธอเข้าไปในบ้านนั้น ซ่งหนานชวนนั้นก็ยังตื่นอยู่เหมือนเคย เขาสวมชุดนอน เอนหลังพิงหัวเตียง พอเห็นเธอเดินเข้ามาก็พูดขึ้นว่า “ช้ากว่าเมื่อคืนตั้งครึ่งชั่วโมงแน่ะ ทีมงานของเธอเป็นอะไรน่ะ”

“อ้อ… การถ่ายทำไม่ค่อยราบรื่นเท่าไหร่น่ะค่ะ พวกเราเลยต้องอยู่นานหน่อย”

คิ้วซ่งหนานชวนขมวดเข้าหากันเล็กน้อย “ผู้กำกับจ้าวดุเธออีกแล้วเหรอ”

“ไม่ค่ะ วันนี้เป็นอวี่ไค่เจ๋อ”

ซ่งหนานชวนเงียบไปชั่วครู่ก่อนเสนออย่างจริงใจ “เวลามีนักแสดงที่เป็นตัวถ่วงทีมงานแบบนี้ ควรจะปลดเขาออกซะ”

“…ฉันไปอาบน้ำก่อนนะคะ” เผยอิงอาบน้ำอย่างรวดเร็วก่อนทิ้งตัวลงบนเตียง

ซ่งหนานชวนมองเธอแบบรู้ว่าคืนนี้เขาไม่ควรทำอะไร ที่จริงเขาอดกังวลนิดๆ ว่า การถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องหนึ่งใช้เวลาถึงสองสามเดือน นี่หมายความว่าเขาจะอดแตะต้องเธอไปสามเดือนเต็มๆ เลยนะ

…เขาไม่อยากคิดถึงมันด้วยซ้ำ

ขณะที่เขาจะค่อยๆตะล่อมเอาคำตอบจากเผยอิงนั้นเองก็ได้ยินเสียงง่วงๆจากข้างกาย “อื้อใช่ ผู้กำกับบอกว่าวันมะรืนที่จะหยุดน่ะโดนยกเลิกแล้วนะคะ พวกเราต้องไปถ่ายทำนอกสถานที่”

ซ่งหนานชวนชะงักไปชั่วครู่ก่อนนิ่วหน้า “ทำไมล่ะ พวกเธอจะหยุดแล้วไปถ่ายทำที่หลังไม่ได้เหรอไง”

เผยอิงเงยหน้ามองเขา “อ้อ ที่นั่นคิวแน่นมาก ต้องจองเวลาสำหรับการถ่ายทำ พอดีได้คิวเลยหยุดพักไม่ได้น่ะค่ะ”

ซ่งหนานชวนก็ยังนิ่วหน้าอยู่ดี “แล้วเธอจะไปเจอพ่อแม่ฉันเมื่อไหร่”

“วันหยุดครั้งหน้ามั้ง ฉันขอโทษนะคะชวนชวน” เผยอิงขอโทษอย่างน่าสงสาร ก่อนจะถามอย่างกระวนกระวาย “คุณบอกพ่อแม่คุณแล้วเหรอคะว่าพวกเราจะไปเยี่ยมน่ะ”

“ยัง”

“งั้นก็ดีค่ะ”

“ดีตรงไหนล่ะ” ซ่งหนานชวนถามอย่างหงุดหงิด “เธอไม่ได้พัก แถมยังต้องไปถ่ายทำไกลๆ อีก” นี่มันหมายความเขาจะโดนลิดรอนแม้แต่สิทธิ์จะนอนข้างๆ เธอตอนกลางคืนเลยนะ

เผยอิงโอบ ก่อนพิงศีรษะตัวเองไว้บนตัวเขา “ชวนชวน อย่าโมโหไปเลย ฉันเองก็อยากพักนะ ทุกคนอยากพักทั้งนั้นแหละ แต่พวกเราจะทำยังไงได้ มีแต่ต้องถ่ายทำให้เสร็จก่อนถึงจะพักได้”

ถึงซ่งหนานชวนจะหงุดหงิดแค่ไหนก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี ได้แต่ทำตัวซึมกะทือ “งานอื่นๆ เธอก็ไม่เห็นยุ่งขนาดนี้นี่”

“เรื่องนี้มันแตกต่างนี่คะ ผู้กำกับน่ะเนี๊ยบมากเลย”

ซ่งหนานชวนนิ่วหน้าถาม “ครั้งนี้เธอจะไปนานแค่ไหน”

“น่าจะประมาณอาทิตย์นึงละมั้ง”

“นานขนาดนั้นเลยเหรอ”

“มันก็ไม่ได้นานขนาดนั้นสักหน่อย” ก่อนเผยอิงจะพูดจบ สีหน้าซ่งหนานชวนก็แทบจะทิ่มแทงเธอได้ เลยรีบแก้ “ถ้าทุกอย่างเป็นไปด้วยดี สองสามวันก็น่าจะได้กลับมาแล้วค่ะ”

ซ่งหนานชวนเย้ย “มีอวี่ไค่เจ๋อไปด้วยแบบนี้ แน่นอนว่ามันต้องไม่ราบรื่นแน่ๆ”
เผยอิง “….”

เธอพยายามปลอบซ่งหนานชวนให้สดชื่นขึ้น และก็ผลอยหลับไป ซ่งหนานชวนมองเผยอิงที่คุยจนตัวเองหลับ ก่อนถอนหายใจอย่างไร้ทางเลือก จัดท่านอนให้ ก่อนดึงผ้าห่มคลุม จูบเธอตรงริมฝีปาก ก่อนล้มตัวลงนอนข้างๆ

ตอนนี้ทุกวันเผยอิงต้องออกจากบ้านแต่เช้าตรู่ กลับถึงบ้านดึกดื่นทุกวัน ถ้าเขาไม่รอเธอกลับ ก็คงไม่ได้เห็นหน้าค่าตากันเลย

…นี่คือความผิดของผู้กำกับจ้าวชัดๆ! แม้แต่นักธุรกิจอย่างเขายังไม่ขูดรีดพนักงานแบบนี้เลย

เขาตัดสินใจว่าจะไม่ลงทุนในโครงการใดๆ ของผู้กำกับจ้าวอีกต่อไป

วันถัดมาเผยอิงก็รีบไปที่สถานที่ถ่ายทำแต่เช้าเหมือนเดิม ผู้กำกับจ้าวตัดสินใจว่าพรุ่งนี้ต้องไปถ่ายทำข้างนอก จึงเลิกเร็วกว่าปกติเพื่อให้ทุกคนกลับบ้านไปเก็บของ

เผยอิงโทรหาซ่งหนานชวน ทั้งคู่ออกไปกินข้าวเย็นด้วยกัน พอกลับบ้านเผยอิงก็เริ่มเก็บของโดยมีซ่งหนานชวนยืนดูอยู่เงียบๆ

“หื้มม ฉันต้องเอามาส์กหน้าไปด้วย” เผยอิงหยิบมาส์กหน้าใส่กระเป๋าเดินทาง ก่อนหันกลับไปทางซ่งหนานชวนที่มีสีหน้ามืดครื้มชวนหวาดหวั่น “ชวนชวน เป็นอะไรไปคะ”

“ผมไม่พอใจไง ไม่เห็นเหรอ”

เผยอิงวางของในมือลง เดินไปหาเขา โอบคอเขา ก่อนเขย่งปลายเท้า จูบตรงริมฝีปาก “ที่นี้อารมณ์ดีขึ้นบ้างหรือยังคะ”

คิ้วซ่งหนานชวนยกขึ้นเล็กน้อย “แค่นั้นจะทำให้ฉันอารมณ์ดีได้แค่ไหนกัน อย่างน้อยก็ต้อง…..” มือเขาเอื้อมเข้าไปภายใต้กระโปรงของเผยอิงอย่างไม่ลังเล ก่อนเอียงคอมางับตรงไหปลาร้าเธอ

เผยอิงเงยหน้า คราง ค่อยๆ สูญเสียการทรงตัว “ชวนชวน…”

เธอเรียกชื่อซ่งหนานชวนแบบไม่รู้สึกตัว เขาอุ้มเธอไปวางบนเตียง ก่อนคร่อมเธอไว้ “เบบี๋ เรียกว่าสามีจ๋าสิ”

“อื้อ…” เผยอิงเขินเกินไปที่จะเรียกเขาแบบนั้น มือซุกซนของซ่งหนานชวนนั้นออกแรงมากขึ้น ก่อนเผยอิงจะร้องออกมา “สามีจ๋า เบาๆ หน่อย”

พอซ่งหนานชวนได้ยินเธอเรียกเขาแบบนั้น ทั้งตัวและหัวใจของซ่งหนานชวนก็ปั่นป่วนไปด้วยความตื่นเต้น เอนตัวลงไป ด้วยแววตาเป็นประกาย “ฟังดูดีชะมัด พูดอีกครั้งสิจ๊ะ”

“สามีจ๋า…”

สีหน้าซ่งหนานชวนเข้มขึ้น เขาจูบริมฝีปากเธออย่างหนักหน่วง ปิดกั้นเสียงครางของเธอไว้

ถึงเผยอิงจะเหนื่อยแค่ไหน แต่ครั้งเดียวก็ไม่เคยพอ ซ่งหนานชวนทำตามใจอีกครั้งขณะที่เธอกำลังสะลืมสะลือ ก่อนอุ้มเธอไปอาบน้ำในห้องน้ำ

พอพวกเขาออกมาจากห้องน้ำ เผยอิงก็ยังไม่ตื่นดี พอเขาคิดว่าวันหนึ่งเธอได้นอนแค่สี่ชั่วโมง ก็ไม่อยากกวนเธออีก อุ้มเธอขึ้นเตียงนอนหลับกันไปทั้งคู่

เช้าวันถัดมา เผยอิงโดนนาฬิกาที่ตั้งไว้ปลุก แขนซ่งหนานชวนนั้นยังโอบอยู่รอบกายเธอ และเธอก็งัดตัวเองออกมาไม่ได้

“ชวนชวน…..

เธอเรียกเขาเบาๆ ซ่งหนานชวนไม่ยอมลืมตาขึ้น พูดเสียงงืมงำ “เมื่อคืนเธอยังเรียกฉันว่าสามีจ๋าอยู่เลย แต่พอได้อย่างที่ต้องการแล้ว เธอก็ไม่สนใจฉันอีก”

เผยอิง “….”

เขานี่มัน!!!!

แต่ก็จริงว่าพักนี้เธอยุ่งมาก จนแทบไม่ได้ใช้เวลากับเขาเลย ดังนั้นเธอเลยพูดว่า “สามีจ๋า ฉันต้องไปแล้วนะคะ”

ซ่งหนานชวนจูบเธอก่อนปล่อยเธออกจากอ้อมแขน

เผยอิงสูดหายใจลึกๆ หลังจากหลุดออกมาจากอ้อมแขนเขา ก่อนตรงไปล้างตัว เธอเก็บของที่ต้องใช้หมดแล้ว ดังนั้นจึงแค่แบกกระเป๋าเดินทางไปที่ประตู และหันไปทางซ่งหนานชวน “งั้นฉันไปก่อนนะคะ”

“อืมม์” ซ่งหนานชวนตอบ

เผยอิงกระพริบตา เธอเดินมาหาก่อนจูบแก้มเขา “ลาก่อนค่ะ สามีจ๋า เดี๋ยวฉันก็กลับแล้ว”

 

Leave a comment